หนังสือ East End Pubs จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ Hoxton Mini Press และเขียนขึ้นโดย Alistair Von Lion และ Tim George ผู้ได้รวบรวม 65 ผับที่มีความเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครในย่านอีสต์เอนด์ของลอนดอนไว้ด้วยกัน เช่น The Palm Tree, The Blind Beggar, The Prospect of Whitby, The Owl & Pussycat, The Artful Dodger, The Pride of Spitalfields, The Marquis of Cornwallis, The Golden Heart, The Grapes, The Commercial Tavern และผับอื่นๆอีกกว่า 55 แห่ง
ย่านอีสต์เอนด์คืออะไร ตั้งอยู่ที่ไหน? ย่านอีสต์เอนด์เป็นเขตดั้งเดิมในลอนดอน ตั้งอยู่ทางตะวันออกของชอร์ดิทช์ ฮาวส์ดิทช์ แอลด์เกต และทาวเวอร์บริดจ์ ขยายไปทางตะวันออกจนถึงแม่น้ำลี และอยู่ในเขตทาวเวอร์แฮมเล็ตส์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมิดเดิลเซกซ์ ในศตวรรษที่ 19 ย่านอีสต์เอนด์เริ่มเป็นที่รู้จักเนื่องจากประชากรผู้อพยพและความยากจนที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งในปี 1888 ย่านนี้เป็นที่รู้จักอีกครั้งจากคดีฆาตกรรมไวท์ชาเปลที่เกิดขึ้นโดยแจ็กเดอะริปเปอร์ ณ เขตไวท์แชปเปิล ย่านอีสต์เอ็นด์ ซึ่งได้กลายเป็นท้องที่เกิดเหตุของคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ด้านอาชญากรรมของอังกฤษ ต่อมาในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 คนงานในย่านนี้ส่วนใหญ่มักพึ่งพาการจ้างงานที่ท่าเรือเก่า ลอนดอน ดอคแลนด์ และแหล่งรายได้หลักในปัจจุบันมาจากอุตสาหกรรมบริการและการผลิตขนาดเล็กโดยเฉพาะเสื้อผ้า
แล้วผับคืออะไร มีประวัติอย่างไร? ในอดีต ผับหรือบูเซอร์ส์ (Boozers) เป็นแหล่งพักพิงสำหรับผู้ชายที่ต้องแบกรับความกดดันจากงานและครอบครัว ผับเป็นเสมือนที่พักผ่อนและหลีกหนีความวุ่นวายในบ้านสำหรับพวกเขาเลยก็ว่าได้
.
ในขณะที่ปัจจุบัน ด้วยความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม ผับดึงดูดลูกค้าหลากหลายมากขึ้น ทั้งคนหนุ่มสาว คนวัยทำงาน ผู้สูงอายุ และอื่นๆ และได้กลายเป็นสถานที่ที่ชาวอังกฤษมักใช้เวลาร่วมกันในเวลาตอนกลางคืน ไม่ว่าจะเป็นการพบปะสังสรรค์ของมหาวิทยาลัย ที่ทำงาน หรือในโอกาสอื่นๆเพื่อดื่มเบียร์ ทานของว่าง ดูฟุตบอล ร้องคาราโอเกะ ฟังดนตรีสด เล่นสนุกเกอร์ แม้แต่เกมปาเป้าเองก็เป็นที่นิยมมากเช่นกัน ภายในหนังสือจะปรากฏภาพของผับต่างๆพร้อมคำอธิบายบอกเล่าที่มา ประวัติโดยย่อ สิ่งที่โดดเด่น และข้อมูลที่น่าสนใจของผับ ซึ่ง Alistair Von Lion และ Tim George เปรียบเสมือนไกด์นำเที่ยวของการเดินทางไปที่ย่านอีสต์เอนด์ในครั้งนี้ เนื้อหาภายในหนังสือมีความกระชับแต่ไม่สั้นจนเกินไป ผู้อ่านสามารถอ่านและทำความเข้าใจได้ง่าย ความเพลิดเพลินและสนุกนี้ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังได้เที่ยวชมทั้ง 65 แห่งจริงๆ
ทุกผับมีความงดงามเป็นเอกลักษณ์และความแตกต่างที่ไม่ซ้ำใคร ไม่ว่าจะในเรื่องของลักษณะตัวอาคารในรูปแบบต่างๆทั้งเก่าแก่ สมัยใหม่ หรือผสมผสาน การตกแต่งภายนอกและภายในให้ความรู้สึกเรียบหรู เป็นกันเอง ลึกลับหรือเปิดเผย บรรยากาศผ่อนคลาย นิ่งสงบ ตื่นเต้น หรือสนุกสนาน ประวัติศาสตร์การก่อตั้งหรือการซื้อขายร้านก็มีความแตกต่างกัน บางผับก่อตั้งโดยนักมวย นักร้อง หรือจิตรกร บางผับส่งต่อกิจการให้กับลูกหลาน ทั้งการดำเนินกิจการให้ผับคงอยู่ต่อไปได้โดยไม่ปิดตัวลงจากอุปสรรคมากมายก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เช่น ผลกระทบจากสงครามหรือวิธีการรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 บางผับให้บริการทั้งในส่วนของผับและร้านอาหาร บางผับเป็นทั้งโรงแรมในตัว เป็นคาเฟ่ หรือเป็นเพียงผับเท่านั้น หนึ่งในผับ 65 แห่งนี้ถึงกับได้ชื่อว่าเป็นผับสำหรับคนที่ไม่ชอบไปผับอีกด้วย ประเภทแอลกอฮอลล์ที่ขาย บางผับขายเบียร์ตามท้องตลาดทั่วไป บางผับขายเบียร์ที่มีลักษณะเฉพาะตัวหรือเบียร์ที่กลั่นเอง แต่ละผับเองมีกลุ่มลูกค้าประจำที่ไม่เหมือนกัน บางผับอาจมีกลุ่มลูกค้าประจำเป็นคนหนุ่มสาว คนวัยทำงาน คนสูงอายุ กลุ่ม LGBTQ+ หรือแม้แต่กลุ่มคนชอบดูฟุตบอล ซึ่งบางผับก็ได้ชื่อเป็นผับประจำของแฟนฟุตบอลทีม West Ham United กันเลยทีเดียว
จากที่ได้อ่าน East End Pubs เรารู้สึกอยากไปเที่ยวประเทศอังกฤษแล้วลองเดินตามรอยหนังสือเล่มนี้ดูสักครั้ง ภาพของผับทั้ง 65 แห่งที่ถ่ายออกมาได้อย่างสวยงามและเสมือนกำลังอยู่ตรงหน้า ทำให้เข้าใจได้ไม่ยากว่าทำไมคนอังกฤษถึงชอบไปผับและใช้เวลาอยู่ที่ผับกันอยู่เสมอ จากที่เคยคิดว่าผับก็เหมือนๆกันไปหมด แท้จริงแล้วผับที่ย่านอีสต์เอนด์นั้นมีสเน่ห์ที่แตกต่างกันเป็นอย่างมาก
หากสนใจวัฒนธรรมอังกฤษในย่านอิสต์เอนด์ลอนดอน ชอบหาสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ หรือแม้แต่เป็นนักดื่มแอลกอฮอลล์หรือดื่มด่ำบรรยากาศตัวยง หนังสือเล่มนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน
“A good local pub has much in common with a church, except that a pub is warmer, and there's more conversation. “
— William Blake
อ้างอิง
https://www.britannica.com/place/East-End
https://blogs.brighton.ac.uk/jerry/2018/11/29/why-do-british-people-love-pubs/
https://www.bbc.com/thai/international-50830663