ถ้ายังไม่เคยเห็นนิตยสารที่ Do You Read Me เบอร์ลิน อย่าเพิ่งตัดสินใจว่า "นิตยสารตายแล้ว" เช้านี้จะพาไป Bookshops Tour ที่กรุงเบอร์ลิน เยอรมนี
.
ย้อนไปปี 2013 หลังจากเปิด The Booksmith ในเดือนกันยายน 2012 ปีถัดมาในตุลาคมก่อนจะไปงาน Frankfurt Book Fair ผมแวะเบอร์ลินด้วยวัตถุประสงค์เดียว...อยากเห็นกำแพงเบอร์ลิน
.
หลายอย่างที่เบอร์ลินประทับใจนับตั้งแต่สนามบิน รถเมล์ รถไฟ และทำให้ผมเชื่อว่าประตูรถไฟใต้ดินนอกจากที่รัสเซีย และกรีซแล้วที่นี่ก็ปิดได้เสียงดังไม่แพ้กัน แต่สะอาดสะอ้านอย่างมาก การเดินดูตึกรามบ้านช่องก็ไม่แปลกที่จะเห็นงานสถาปัตย์มีสัดส่วนใหญ่ สี่เหลี่ยม คล้ายคลึงกับที่รัสเซีย
.
นอกจากกำแพงเบอร์ลิน และการเดินหาซื้อก้อนหินที่เป็นส่วนหนึ่งของกำแพง อันเป็นความตั้งใจมาตั้งแต่ตอนกำแพงถูกทุบ แต่ไม่ได้เพราะไม่แน่ใจว่าจะเป็นของจริงหรือเปล่า อีก 3วันถัดมาก็จะวนเวียนอยู่ที่เกาะพิพิธภัณฑ์ (ผมเรียกเอง) ตรงนั้นมีพิพิธภัณฑ์ทุกอย่างรวมกันอยู่ และหลังจากเดินขาขวิดเข้าออกพิพิธภัณฑ์ผมออกมาด้านนอก เพราะอยากสูดอากาศในพื้นที่กว้างๆบ้าง
.
ที่หน้าพิพิธภัณฑ์ก็เดินเลี้ยวซ้ายข้าม Friedrichsbrücke แล้วก็เลี้ยวซ้ายต่อที่ burgstraße ตรงใกล้หัวมุมจะมีร้านหนังสือชื่อ Buchhandlung Walther König an der Museumsinsel แต่วันนั้นปิด จริงๆ Walther König เป็นสำนักพิมพ์ด้วย เขาทำหนังสือศิลปะและจัดจำหน่ายทั่วโลกโดย Thames & Hudson ตอนนั้นไม่ได้แวะเพราะร้านปิด เดินต่อไปเรื่อยๆจนทะลุไปที่ถนน Große Hamburger Straße ตัดกับ Auguststraße ครั้งแรกที่เห็น Do You Read Me ผมไม่รู้จักนึกว่าร้านหนังสือ แต่เมื่อลองเดินเข้าไป อ้าว.....นิตยสารมากกว่า 90% และเป็น Independent Magazine ทั้งนั้น
.
ผมกลับไปใช้เวลาที่นี่อีก 1 วันเต็ม ยอมรับว่าเป็นแรงบันดาลใจทำให้อยากขายนิตยสาร จนเป็นต้นน้ำของร้าน The Papersmith ในอีกสามปีถัดมา ผมใช้เวลาหลังจากนั้นศึกษานิตยสารในร้าน ติดต่อจัดจำหน่ายในอังกฤษ รวมถึงติดต่อสำนักพิมพ์ตรง ถ้าไปดูนิตยสารหลายปกจะลงชื่อ The Papersmith เป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย
.
Do You Read Me เป็น Bibile เล่มแรกของโลกนิตยสารสำหรับผม ก่อนที่จะเดินทางมาถึงเล่มที่สองที่อังกฤษคือ Mag. Culture ในลอนดอนที่ได้ทำงานร่วมกับทีมงานที่นั่นมาตั้งแต่ปี 2016 นิตยสารส่วนมากของ The Papersmith ตอนนั้นถูกเลือกขั้นแรกโดยทีมงานของ Mag. Culture ส่งมาให้ผมเลือกอีกที หลายเรื่องที่เป็นสิ่งใหม่ แต่ทีมก็แนะนำให้ลอง
.
กลับมาที่ Do You Read Me เมื่อเข้ายืนอยู่กลางร้าน เราจะรับรู้ได้ถึงพลัง และคำอุทานในใจ "......ไหนว่านิตยสารตายว่ะ" เท่าที่เห็นเรียกว่ามากกว่าดอกเห็ดแน่นอน นี่จึงเป็นที่มาทำไมผมจึงยังเชื่อมั่นว่านิตยสารยังขายได้ และตั้งคำถาม "นิตยสารที่ต้องจากไปมีเหตุผลอะไรกันแน่ระหว่าง คนไม่อ่าน หรือ เขาไม่เปลี่ยนแปลง ทำสิ่งเดิม จนวันหนึ่งวันกลายเป็น sub-standard จากสิ่งที่เคยได้รับการยอมรับ"
.
พื้นที่ขนาดประมาณ 40 ตรม (โดยประมาณ) อันเป็นขนาดที่ใกล้เคียงกับ The Papersmith ที่เกษร แต่ประมาณว่ามีนิตยสารไม่น้อยว่า 600-800 ปกทีเดียว ครั้งสุดท้ายที่เห็นนิตยสารมากเท่านี้มันเมื่อไหร่กันนะ อย่างที่บอกเป็น Independent Magazine ทั้งนั้น ผมอาจเคยเห็น Glossy หรือ Commercial Magazine ในจำนวนปกที่ใกล้เคียงกันที่ WH Smith แต่นี้คือ Another Story ในโลกนิตยสาร
.
หลังจากซึบซับความรู้สึกเกี่ยวกับนิตยสารผมเดินกลับ แต่แยกลองย้อนผ่านทาง Sophienstraße ตรงนั้นเองที่เจอร้านหนังสือของสำนักพิมพ์โปรดอย่าง Gestalten Bookshop ร้านใหญ่มาก แต่แบ่งพื้นที่ในการจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม Lifestyle Products และส่วนแสดงงาน แต่พื้นที่ก็ยังกว้างขวาง ตอนนั้นเหมือนเจอขุมทรัพย์เพราะช่วงปี 2012-2014 Gestalten เป็นสำนักพิมพ์ที่ขึ้นหม้อมากในเรื่องยอดขาย และคุณภาพหนังสือ เล่มไหนออกมาขายได้ทุกเล่ม หนังสือที่ได้รางวัล หรือเรียกได้ว่าเป็น bible เล่มแรกๆที่เปิดโลกเกี่ยวกับ Infographic คือ A Map of The World ที่ขายดีมาก ตอนนั้นมาเท่าไหร่ก็ไม่พอ ผมจำได้ว่าตอนที่เปิดหน้าบัญชีกับ Gestalten สำนักพิมพ์ก็ยังแปลกใจว่าหนังสือเขาขายได้ที่ไทยด้วยเหรอ
.
เช้านี้ผมพาออกจากอังกฤษไปเที่ยวร้านหนังสือที่เบอร์ลิน และเป็นเมืองที่แนะนำครับ ผมคิดว่าเบอร์ลินยังไม่ได้แพงมากในการจะไปเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวยังไม่แออัดไปด้วยนักท่องเที่ยว ศิลปะ ดนตรี และประวัติศาสตร์มีอยู่ทุกอณูของเมือง ที่สำคัญผมว่าที่พักไม่แพง อาหารเช้าดี เดินทางสะดวก จะลง Frankfurt แล้วนั่งรถไฟต่อไปอีก 3-4 ชั่งโมงก็ไม่เลว หรือจะนั่งเครื่องบินก็แป๊ปเดียวเท่านั้น
.
สิ่งที่ผมได้กลับมาตอนนั้นคือความคิดใหม่เกี่ยวกับนิตยสาร และครั้งหนึ่งได้อัพเดต resume ของเราว่าในอดีตเคยมี Independent Magazine Store จริงจังที่กรุงเทพ ตอนนั้นเรียกได้ว่าเป็นร้านแรกในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ก่อนร้านที่สิงคโปร์ด้วยซ้ำ มีนิตยสารหมุนเวียนอยู่ 400 ปก และเคยขึ้นสูงสุดที่ 500 ปก ตอนนี้เราเริ่มจะนำเข้านิตยสารเหล่านั้นกลับมาที่ The Booksmith เชียงใหม่ อาจจะไม่ขยายไปถึง 400-500 ปกแบบในอดีต แต่อนาคตไม่แน่นอน ทุกอย่างอาจเปลี่ยนแปลงเมื่อจังหวะ โอกาส และเวลาอำนวย
.
เดอะ บิ๊ดสมุ้ก