Epicurus

Being Happy

Translated by George K. Strodach


 It is impossible to live the pleasant Epicurean life

Without also living sensibly, nobly, and justly;


มนุษย์เราต่างคนก็ต่างครอบครองร้อยแปดพันเก้าความแตกต่างเอาไว้ในตัวของตัวเองกันทั้งนั้น แต่สิ่งหนึ่งที่เราเชื่อว่าทุกคนน่าจะมีคล้าย ๆ กันอยู่นั่นก็คือ สุดท้ายแล้วชีวิตก็คือการเดินทางสู่ความสุข ซึ่งชีวิตของเราจะสัมผัสไออุ่นของความสุขได้มากขึ้นไหม หากเราลองเริ่มเพียงแค่ “appreciate the joy to be alive” หรือรู้สึกตื้นตันใจมากแแล้วกับความสุขที่เรายังมีชีวิตอยู่


ในบทความเรื่องนี้ เราจะพาทุกคนมาสำรวจเนื้อหาปรัชญาเกี่ยวกับการเป็นสุขผ่านผลงานของนักปรัชญาชาวกรีกโบราณอย่าง Epicurus ในหนังสือเซต Great Ideas ของ Penguin Books ลำดับเรื่องที่ 102 จากทั้งหมด 120 เรื่อง 


Epicurus (341 BC - 270 BC) คือ นักปรัชญาชาวกรีกโบราณที่เขียนเกี่ยวกับ Ethical/Moral Philosophy หรือจริยศาสตร์ของความสุขที่เรียบง่าย มิตรภาพและการอยู่อย่างสันโดษ ซึ่งเขาได้ก่อตั้งโรงเรียนสอนปรัชญาแห่งหนึ่งที่อยู่มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสตกาลจนถึงศตวรรษที่ 4 คริสต์ศักราชเลยทีเดียว


โดยหนังสือเรื่อง Being Happy by Epicurus ประกอบไปด้วย 5 บทด้วยกัน ได้แก่ Letter to Menoeceus (เกี่ยวกับศีลธรรมและ Theology หรือเทววิทยา), Leading Doctrines (หลักคำสอน), The Vatican Collection of Aphorisms (A list of Epicurean maxims), Letter to Herodotus (เกี่ยวกับฟิสิกส์), และ Letter to Pythocles (เกี่ยวกับ Meteorologyหรืออุตุนิยมวิทยา)


 “To say that the time to study philosophy

 has not yet arrived or that it is past is like

 saying that the time for happiness is not yet 

at hand or is no longer present.”


และถึงแม้ว่าหนังสือเล่มนี้จะมีเพียงแค่ 65 หน้า แต่เราก็ขอรับประกันถึงสาระแบบอัดแน่นที่จะสามารถกระตุ้นบางความคิดในตัวทุกคนได้ไม่มากก็น้อย ดังนั้น ถ้าพร้อมแล้วเราก็มาเจาะลึกเข้าไปในหัวใจของ Being Happy by Epicurus กันเลย!


ใน Section The Good Life จากบทแรก Letter to Menoeceus ของหนังสือเรื่องนี้มีย่อหน้าหนึ่งที่บันทึกคอนเซ็ปต์ของทฤษฎี Epicurean ที่ว่า “The Absence of Pain or Fear – is the highest goal of life” ไว้ได้อย่างชัดเจน “It is on the account that we do everything we do — to achieve freedom from pain and freedom from fear. When once we come by this, the tumult in the soul is calmed and the human being does not have to go about looking for something additional with which to supplement the welfare of soul and body.” (ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเราทุกคนทำ เราทำเพราะต้องการอยากประสบความสำเร็จในการเป็นเสรีจากความเจ็บปวดและความกลัว และเมื่อเราสำนึกถึงความจริงนี้แล้ว ความปั่นป่วนในจิตวิญญาณของเราก็จะสงบและมนุษย์ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องออกมองหาสิ่งอื่นใดเพื่อมาเติมเต็มสวัสดิภาพของทั้งกายและใจของตนเองอีก)


และเมื่อมาถึงบท Leading Doctrines (หลักคำสอน) นั้น Epicurus ก็ได้เขียนถึงหลักคำสอนทั้งหมด 40 ข้อที่ครอบคลุมถึงหลายด้านของชีวิตด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Five Fundamental Teachings Bearing on The Good Life, The Good Life Is Dependent on Science, The Limits of True Pleasure, Friendship, Justice and Injustice ฯลฯ ซึ่งหนึ่งในคำสอนสอนจาก Five Fundamental Teachings Bearing on The Good Life ที่ว่า “It is impossible to live the pleasant Epicurean life without also living sensibly, nobly, and justly;” ก็ได้ปรากฏอยู่บนหน้าปกของหนังสือเล่มนี้ด้วย


โดยส่วนตัว เรามองว่าทุกคนสามารถเรียกบท The Vatican Collection of Aphorisms บทที่สามว่าเป็นบทโบนัสของหนังสือเล่มนี้เลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าผู้ใดได้ลองตั้งสมาธิและอ่านบทนี้อย่างจดจ่อแล้ว เราเชื่อว่าคุณจะได้ Motto ในการดำเนินชีวิตของแต่ละวันให้กับตัวเองเพื่อชีวิตที่คุ้มค่าและมีความหมายมากขึ้นอย่างแน่นอน และนี่เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น...


“We are born once. We cannot be born a second time, and throughout eternity we shall of necessity no longer exist. You have no power over the morrow, and yet you put off your pleasure. Life is ruined by procrastination, and every one of us dies deep in his affairs.” (เราทุกคนมีโอกาสเกิดมาแค่ครั้งเดียว เราไม่สามารถเกิดมาซ้ำรอบที่สองได้ และตลอดชั่วนิรันดร์เราก็จะไม่มีความจำเป็นใดที่จะต้องมีตัวตนอีก คุณไม่มีแม้แต่อำนาจในการควบคุมวันพรุ่งนี้ แต่คุณกลับยังผลักไสความสุขของตนเองให้เลื่อนห่างออกไปเรื่อย ๆ  ชีวิตคนเราจึงถูกทำลายเพราะการผัดวันประกันพรุ่งที่ทำให้เราทุกคนจากโลกนี้ไปทั้งที่ยังมีเรื่องคาใจอยู่)


ส่วนในสองบทสุดท้ายของหนังสือเรื่อง Being Happy by Epicurus อย่าง Letter to Herodotus และ Letter to Pythocles จะบรรยายถึงทฤษฐีวิทยาศาสตร์อย่างฟิสิกส์และอุตุนิยมวิทยา เช่น เรื่อง Sense Perception, Atoms And Their Characteristics, The Soul And Its Nature, Weather Signs; Clouds, Rain, Lighting, The Heavenly Bodies ฯลฯ เพราะความเชื่อของ Epicurus ที่ว่า “In my opinion, even if a person did not go on study all the scientific details, he would still enjoy an incomparable advantage over others, because he would make clear to himself many of the points that are investigated in detail in my general treatise, and these, once deposited in the memory, will be of constant assistance to him.”


ทุกคนเห็นแล้วใช่มั้ยว่า ถึงแม้ว่าหนังสือเรื่อง Being Happy by Epicurus จากหนังสือเซต Great Ideas ของ Penguin Books จะดูเล่มเล็กและเนื้อหาสั้น แต่หนังสือเล่มนี้กลับ Full of Wonders ที่อาจดึงดูดความสนใจบางอย่างของหลาย ๆ คนได้ และหนังสือเรื่องนี้ก็ยังมีเนื้อหาอีกมากมายที่เราไม่ได้เปิดเผยเพราะเรารอให้นักอ่านทุกคนได้เปิดใจเข้าไปค้นคว้าเอาเอง ดังนั้น หากใครสนใจอยากลองให้โอกาสกับหนังสือปรัชญาเกี่ยวกับความสุขอย่างเล่มนี้ก็สามารถเข้าไปเช็กความเคลื่อนไหวได้ที่ www.thebooksmith.co.th หรือแวะมาทักทายกันได้ที่หน้าร้าน The Booksmith @ One Nimman ได้ตลอดนะ สำหรับวันนี้ Have a Joyious Day Guys!


Source

Britannica Epicurus Biography https://www.britannica.com/topic/Epicureanism



เรื่อง : Princess
ภาพประกอบ : Serm